Content ขาย ของ
ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูว่า เวลาที่ใช้โซเชียลมีเดียแต่ละอย่าง คุณใช้ทำอะไรบ้าง?
- 5 เทคนิคการเขียนSALES CONTENTปิดการขายในคอนเทนต์เดียว
- เขียน Content ให้ขายของได้ ไม่เปลือง Budget ยิงโฆษณา - Nipa
5 เทคนิคการเขียนSALES CONTENTปิดการขายในคอนเทนต์เดียว
ทำ Content เป็น เห็นเงินล้าน (ตอนที่ 2) 5 หลักการทำ Sell Content ขั้นเทพ: ขายยังไงให้เนียนกริ๊บ! ทำ Content เป็น เห็นเงินล้าน (ตอนที่ 2) 5 หลักการทำ Sell Content ขั้นเทพ: ขายยังไงให้เนียนกริ๊บ!.. (คำเตือน: บทความนี้ยาว แต่ดีมาก ใครขายของออนไลน์ทุกคนต้องอ่าน ไม่อ่านคือพลาดที่สุดในสามโลก! กล้าพูดเลย). ต่อจากบทความที่แล้วที่ว่าถึงเรื่อง Value Content ว่าเป็นส่วนสำคัญ สำหรับ Content marketing วันนี้จะมาว่ากันต่อเรื่อง Sell Content กันบ้าง (ใครยังไม่รู้จัก Value Content แนะนำไปอ่านตอนที่ 1 ก่อนที่ >>>). อย่างที่บอกว่าปัญหาของคนส่วนใหญ่ เวลาทำเพจขึ้นมาใหม่คือ เปิดเพจปุ๊บ โพสต์ขายปั๊บๆ ขายรัวๆๆๆๆ ไม่เคยคิดจะสร้างความน่าเชื่อถืออะไรก่อนเลย! แถมโพสต์ขายแต่ละทีก็แสนจะแห้ง ซ้ำๆกันไปหมด เรียกว่าขายของแบบโคตรฮาร์ดเซลล์ ไม่มีศิลปะอะไรเลย สุดท้ายก็ขายไม่ออก!. วันนี้ ผมจะมาว่าถึงหลักการ 5 ข้อเกี่ยววิธีโพสต์ขายของยังไงให้เนียนๆ ให้มีศิลปะๆให้น่าซื้อ ถ้าทำได้ตามนี้ ยอดขายมาแน่นอน!.. 1. "เขียนเอง". คุณต้องโพสต์ขายของโดยการเขียนขึ้นมาเองในสไตล์ของคุณ (จำลองตัวเองเป็น Copywriter) บางคนเปิดเพจมา เป็นตัวแทนจำหน่ายครีม สิ่งที่เค้าโพสต์ตลอดเวลาคือก๊อบข้อความ ก๊อบรูปจากแบรนด์มา แล้วก็โพสต์ๆๆๆๆๆ.
ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การตลาดแบบ All-in-One แนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ในตลาดดิจิทัล หนึ่งในนั้น คือการเปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์แบบครบวงจร ด้วยการลงชื่อเพียงครั้งเดียว เพื่อใช้เครื่องมือทั้งหมดของ Liana Technologies จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ การทำงานของ นักการตลาดและช่วยประหยัดเวลา 3. ยิงโฆษณาหากลุ่มเป้าหมายแม่นยำยิ่งขึ้น ปกติแล้วผู้คนมักจะไม่สนใจโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง หรือรุกล้ำความเป็นส่วนตัวมากเกินไป ซึ่งจากการวิจัยโดย Digital Connections พบว่าผู้คน 49% จะไม่สนใจแบรนด์ หากรู้สึกว่าโฆษณานั้น ๆ ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง ขณะที่ 36% ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามกลับมา มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ส่งข้อความหรือโฆษณาที่เหมาะสมกับพวกเขา นั่นหมายความว่า ทิศทางของการโฆษณาออนไลน์ในอนาคตจะตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำยิ่งขึ้น 4. ใช้เสียงค้นหาสินค้าที่ต้องการ (Voice Search) การใช้เสียงค้นหาสินค้าหรือสิ่งที่ต้องการ (Voice Search) ดูเหมือนจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยคาดว่าเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาประเทศเดียว ยอดขายจาก Voice Commerce หรือการสั่งซื้อสินค้าด้วยเสียงน่าจะทำเงินได้สูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์เลยทีเดียวในปี 2022 ดังนั้น จึงควรมี Voice Search ไว้รองรับกลุ่มลูกค้าเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น 5.
หนึ่งในสิ่งที่หลายคนมาขอคำปรึกษาผมบ่อยๆ ก็คือ "จะโพสต์ขายของอะไรดี? "
![](https://www.fmone1035.com/wp-content/uploads/2019/03/new821x514.jpg)
มีความเป็นมืออาชีพ การเผยแพร่เนื้อหาที่เป็นความรู้เฉพาะทางนั้น จะทำให้เราดูเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในด้านสินค้าหรือบริการที่เราขาย ทำให้เพิ่มความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น 2. มีความดึงดูด การทำการตลาดด้วยคอนเทนต์แตกต่างจากการขายแบบเดิมที่อาจต้องเข้าหาลูกค้าเองหรือต้องจ่ายเงินโฆษณาโดยเกินจำเป็นไปมาก คอนเทนต์ที่ดีจะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้าหาเอง เพื่อใช้เป็นความรู้และประกอบการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ 3. สร้างผู้เยี่ยมชมให้เพจและเว็บไซต์ การทำ Content Marketing ควรสร้างคนสนใจและติดตามให้กับเพจและเว็บไซต์ของเราได้มากที่สุด หากเนื้อหาของเรามีความน่าสนใจพอ โดยผู้คนมักเห็นคอนเทนต์ของเราตามโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook และเราสามารถให้ลิงค์เพื่อให้ลูกค้าคลิกเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของเราได้ 4. ทำให้ลูกค้าผูกพันกับแบรนด์ของเรา คอนเทนต์ที่สม่ำเสมอ มีคุณค่า ตรงกลุ่มเป้าหมาย และทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วม เช่น คอมเมนต์ แชร์ ยิ่งมีการพูดคุยระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ก็ยิ่งก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี และทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์ของเรานั่นเอง สินค้าและบริการแต่ละอย่างอาจต้องใช้ Content Marketing ที่มีรูปแบบแตกต่างกันไป เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย หากขายสินค้าหรือบริการที่มีข้อมูลเฉพาะทาง อาจต้องใช้เนื้อหาเป็นบทความ โดยต้องทำให้อ่านง่ายและเข้าใจได้ไม่ยาก บทความจาก
ความโปร่งใส 94% ของผู้บริโภคระบุว่าพวกเขาจะยังคงภักดีต่อแบรนด์ที่มีความโปร่งใส ไม่หลอกลวงผู้บริโภค ดังนั้น หาก บริษัทใดล้มเหลวในการมอบความไว้วางใจในเรื่องความโปร่งใส และความถูกต้อง ก็จะพลาดโอกาสในการขายไป ขณะที่ สหภาพยุโรปก็ออกกฎหมายที่เป็นมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) และมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2018 ด้วย เพื่อแสดงให้เเห็นถึงความสำคัญของการจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างโปร่งใส 11. มีแอปพลิเคชันรองรับ จากข้อมูลของ AdAge พบว่าการใช้จ่ายผ่านมือถือของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็น 65 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2020 ซึ่งการการพัฒนาเทคโนโลยี 5G จะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักการตลาดสามารถใช้ข้อมูลมือถือ และถ่ายทอดข้อความที่ต้องส่งไปยังผู้บริโภคผ่านแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น เพราะทุกอย่างสามารถทำได้ผ่านแอปฯ ในมือถือ 12. พฤติกรรมใหม่ของโซเชียลมีเดีย อาจเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อหากจะบอกว่าทุกวันนี้ผู้คนมีแนวโน้มที่จะใช้ปิดการใช้งานโซเชียลมีเดียของพวกเขามากขึ้น โดยข้อมูลจาก GlobalWebIndex พบว่า 32% ของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ตัดสินใจปิดการใช้งานบัญชีโซเชียลมีเดียของพวกเขาในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น นักการตลาดจึงต้องมีความขัดเจนในการสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น เช่นการนำเทคโนโลยี VR และ AR มาใช้ รวมถึงใช้ข่องทางอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ การส่งข้อความการตลาดผ่านอีเมล และการประชาสัมพันธ์ 13.
เขียน Content ให้ขายของได้ ไม่เปลือง Budget ยิงโฆษณา - Nipa
![content ขายของออนไลน์](https://pbs.twimg.com/media/DuMTqHRU8AAO7O4.jpg:large)
- หวย 16 มิถุนายน 2564
- ตู้คอนเทนเนอร์ มือสอง บิ้วทำสำนักงาน ร้านค้า ร้านกาแฟ | ราชาคอนเทนเนอร์
- เทคนิคการทำ Content Marketing ให้ประสบความสำเร็จ -
- ชั้น ตา หนา
- ขายของ online ให้เด่นด้วยวิธีทำ Content Marketing
- หนังสือพิมพ์กีฬา สปอร์ตพูล 19/04/2022 - Trafficfootball
- 14 เทรนด์ การตลาดออนไลน์ ปี 2022 ที่ต้องจับตา และต้องดูเรื่องไหนเป็นพิเศษ
- คอนโด ไฮ สุขุมวิท 93 | Livinginsider
- ที่พัก โรจ นะ
- เอ ส เค 7x pro
- Www ch5 com สด video
แล้วเขาจะรู้ว่า เราทำการบ้านมาอย่างดีนั่นเอง ในการเขียน Sales content ก็เช่นกัน ถ้าเราสามารถเดาใจลูกค้าได้ ลองลากจากปัญหาของลูกค้ามาหาจุดเด่นของตัวสินค้า แนวทางการนำเสนอก็จะชัดเจน การเขียนแบบ จบด้วย 1 Sales Content (SOLD IN ONE) คือการตั้งเอาปัญหาขึ้นก่อน แล้วตบด้วยคำตอบ ถ้าเราให้คำตอบลูกค้ามากพอ ลูกค้าจะรู้สึกเสี่ยงน้อยลง และซื้อง่ายขึ้นเป็นสิบ ๆ เท่าเลยครับ มาดูกันว่าเราจะต้องหยอดคำตอบอะไร ลงไปใน Sales Content บ้าง 1) ลูกค้าต้องการอะไรกันแน่? (ลูกค้ามีปัญหาอะไรกันแน่? ) สิ่งที่คนส่วนใหญ่พลาดเวลาคิดค้นสินค้าขึ้นมาก็คือ เรามักคิดว่าเรารู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร?
ถามว่าผิดไหม ไม่ผิดหรอกครับ แต่มันจะขายดีกว่านี้มาก ถ้าคุณนำมา rewrite ในภาษาและสไตล์ของคุณเอง รวมถึงรูปก็ลองที่จะถ่ายเองบ้าง เพราะจริงๆถ้าคุณก๊อบมารัวๆแบบนี้ คุณก็ทำวิธีเดียวกับตัวแทนจำหน่ายอีกหลายสิบเจ้า คุณแทบจะไม่แตกต่างอะไรในสายตาลูกค้าเอ่ย การที่คุณสามารถ Create Contentของตัวเองได้ จะทำให้ร้านออนไลน์ของคุณแตกต่างจากตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ. เพราะถ้าของที่ขายในเพจคุณ เพจอื่นๆก็มี นั่นแปลว่า Product คุณไม่แตกต่าง ดังนั้นการตลาดคุณต้องดีกว่า Service ต้อง Nice กว่า, ดีกว่า, ส่งของเร็วกว่า, สต็อคเยอะกว่า คือมันต้องดีกว่าซักมุมหนึ่งอะ ถ้าเพจคุณเทียบกับเพจคู่แข่งแล้วดูแล้วไม่มีอะไรดีกว่า แปลว่าธุรกิจคุณลำบากแน่นอน ต้องหาและต้องสร้างจุดดีกว่าให้ได้ (ในทางการตลาดเรียก Competitive Advantage) ถ้าสุดท้ายแล้วคุณสร้างจุดแตกต่างที่ดีกว่าไม่ได้เลย คำแนะนำเดียวของผมคือควรเลิกทำธุรกิจนี้ครับ….. 2. "เขียนใหม่เรื่อยๆ". นอกจากเขียนโพสต์ขายเองได้แล้ว แนะนำต่อให้ให้เขียนใหม่เป็นระยะๆ อย่าโพสต์อันเดิมซ้ำๆ บางคนใช้ content นี้โพสต์มาสามปีแล้ว วนไปวนมาเกือบห้าสิบรอบ! (คุณพระ! ยกมือทาบอก! ) จำไว้เลยนะครับ คนออนไลน์เป็นคนขี้เบื่อ เห็นอะไรเดิมๆซ้ำๆ สินค้าเดิมๆ รูปเดิมๆ เนื้อหาเดิมๆ เคยอ่านเคยผ่านตามาแล้ว แป๊บๆก็เบื่อครับ.
ส่วนต่อไปในเนื้อหาบทความก็ต้อง มีคำว่า ส้มตำ รามอินทรา อยู่ในเนื้อหา ด้วยครับ สัก 3-5 คำเป็นอย่างน้อย หลักการเบื้องต้นประมาณนี้ เราทำอย่างนี้บ่อย ๆ ใน เว็บไซต์ของเรา หรือ ในแฟนเพจ (ส่วนที่เป็น Note) เราก็จะยิ่งทำให้ร้านค้าของเรามีโอกาสติดอันดับดี ๆ บน google แถมยังได้รับการแชร์การ Like อีกต่างหาก ไหน ๆ จะเหนื่อยทั้งทีก็เหนื่อยให้คุ้มค่า!!! 10.
![](https://classix-siam.online/wp-content/uploads/2020/06/Lotus-Esprit-Highwing-2-1-scaled.jpg)
ต้องรู้พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค ยิ่งเรารู้ข้อมูลของผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งง่ายต่อการกำหนดแนวทางและหัวข้อของการเขียนบทความ เพราะหัวข้อคือประตูด่านแรกของบทความที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจว่า จะเข้ามาอ่านดี หรือไม่เข้ามาอ่านดี? เพราะฉะนั้นอย่าละเลยการเขียนหัวข้อบทความให้ดี ทีนี้ทริคในการคิดหัวข้อมีอะไรบ้าง? - สั้นกระชับ น่าสนใจ การตั้งชื่อหัวข้อของ การเขียนบทความ จะต้องน่าสนใจ สั้นกระชับ น่าเข้ามาอ่าน ซึ่งตรงนี้จะต้องดูจากข้อมูลของกลุ่มผู้บริโภคว่า มีความสนใจด้านไหน - มีความแปลกใหม่ การเขียนหัวข้อให้ดูสดใหม่ เข้ากับเทรนด์ปัจจุบัน - มี Call to action ลับๆ การมีแรงจูงใจที่ทำให้เกิดการตอบสนองกับแบรนด์ เช่น พูดถึงการสูญเสียประโยชน์หากไม่ได้ใช้สินค้า หรือ บริการจากแบรนด์ - ไม่โจมตี หรือเป็นการ Bully จนเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อแบรนด์ 2. เขียนบทความ สร้างความน่าเชื่อถือ ด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและแบรนด์ เราสามารถให้ความรู้เกี่ยวกับแบรนด์ของเรา โดยแทรกข้อมูลที่จำเป็นต่อลูกค้าหรือเป็นสิ่งทีแบรนด์จะได้รับประโยชน์ จากข้อมูลนั้น ๆ ลงไปด้วย เพื่อให้ลูกค้าเกิดภาพจำ เช่น แบรนด์หน้ากากอนามัย มีบทความเรื่อง อันตรายจาก Covid-19 หรือ แบรนด์อาหารคลีน มีบทความเรื่อง อันตรายจากการทานน้ำมัน 3.
- Xsplit broadcaster ถาวร video
- ตั๋ว รถไฟ เกาหลี
- บอล ไม โล 2015 cpanel
- แม่ แดด น้อย ที่พัก
- Rpg maker mv สอน pc
- สอน adobe flash cs6 download free
- ทุนแลกเปลี่ยนระยะสั้น 2564 ฟรี ญี่ปุ่น
- ศัลยกรรม เลื่อน ขา กรรไกร
- ประเภทของงานกราฟิก
- ล้อ ไทร ทัน
- Air lift pump คือ
- ลาบ หมู วุ้นเส้น
- Nubwo x12 ราคา jib
- Notebook quadro ราคา