ความ เสี่ยง การ ลงทุน
ความเสี่ยงของการลงทุนใน Cryptocurrency และวิธีในการป้องกันความเสี่ยง (2) โดย สถาพน พัฒนะคูหา CEO, SmartContract Blockchain Studio จากตอนที่แล้ว เราได้คุยกันไปว่า ความเสี่ยงของการลงทุนใน cryptocurrency หรือ DeFi นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. Systematic Risk คือ ความเสี่ยงที่ติดตัวมากับทั้งระบบ หรือความเสี่ยงที่ถ้าเกิดขึ้นแล้วจะมีผลทั้งตลาดของสินทรัพย์ชนิดนั้น ๆ เช่น ความเสี่ยงด้านกฎหมาย หรือ ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี 2. Unsystematic Risk คือ ความเสี่ยงที่ติดตัวมากับธุรกิจหรือหลักทรัพย์นั้น ๆ เท่านั้น และถ้าเกิดขึ้นก็จะมีผลกระทบกับเพียงธุรกิจหรือหลักทรัพย์นั้นเท่านั้น ไม่เกิดผลกระทบกับตลาดในภาพรวม 3. Personal Risk คือความเสี่ยงที่เกิดจากตัวนักลงทุนเอง เช่น การทำ private key หาย, การใส่ address ปลายทางผิด ซึ่งก็จะมีผลกระทบเฉพาะกับคน ๆ นั้นคนเดียว *บทความตอนที่แล้ว: ความเสี่ยงของการลงทุนใน Bitcoin และวิธีในการป้องกันความเสี่ยง (1) ซึ่งผลสุดท้ายแล้วความเสี่ยงทั้งหลายเหล่านั้นก็จะแสดงออกมาในรูปของราคาที่เปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยต่างๆ และในตอนที่ 2 นี้ เรามาจะคุยกันต่อถึงเรื่องวิธีและเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงในแต่ละช่วงจังหวะของการลงทุนใน Cryptocurrency และ DeFi กันครับ 1.
ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์กับการลงทุน - FINNOMENA
การจัดสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation) ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด 2. ปรับสัดส่วนการลงทุน (Rebalance) รูป 1: กลยุทธ์การลงทุนทุกช่วงเวลา 1. การจัดสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation) ถือเป็นพื้นฐานและปัจจัยสำคัญของการจัดพอร์ตการลงทุน ด้วยการกระจายความเสี่ยง ( Diversification) ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ส่วนสำคัญดังนี้ 1. 1 กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน: แทนที่เราจะลงทุนในอสังหาฯ หุ้นหรือทองคำเพียงอย่างเดียว เราควรที่จะกระจายการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ เช่น เงินสด หุ้น ตราสารหนี้ อสังหาฯ หรือทองคำ เป็นต้น 1. 2 กระจายลงทุนในหลายอุตสาหกรรม: อธิบายง่ายๆ คือ การลงทุนในหุ้น เราไม่ควรที่จะถือหุ้นตัวเดียว แต่ควรลงทุนหุ้นหลายตัวในหลายธุรกิจ เช่น ธนาคาร ค้าปลีก โรงแรม เป็นต้น 1. 3 กระจายข้ามตลาด ประเทศ และค่าเงินทั่วโลก: อย่าลงทุนเพียงแค่ในประเทศไทย ประเทศเดียว (ตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของตลาดหุ้นทั่วโลก) ควรลงทุนในต่างประเทศด้วย ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ยุโรป เป็นต้น 1. 4 กระจายช่วงเวลา: เราไม่มีทางรู้ว่า เวลาไหนเป็นเวลาที่ถูกต้องในการซื้อ ดังนั้นเราควรทำให้การลงทุนเป็นเรื่องอัตโนมัติคือ ลงทุนเป็นประจำทุกเดือนหรือทุกปี (วิธี Dollar-cost averaging) การลงทุนที่สม่ำเสมอนี้จะช่วยตัดความกังวลหรือความลังเลใจในการตัดสินใจลงทุน เนื่องจากปัจจัยภายนอกที่มากระทบตลาดหุ้นในระยะสั้นได้ ทำไมพอร์ตการลงทุนต้องกระจายความเสี่ยง ( Diversification)?
- การลงทุนมีความเสี่ยงหรือไม่| Principal Asset Management
- สอบ ทหาร อากาศ วัน ไหน
- ความเสี่ยง การลงทุน
- The Stock Exchange of Thailand : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์กับการลงทุน
- เรารู้จักความเสี่ยงในการลงทุนแค่ไหน?
- ธนาคาร ซิตี้ แบงก์ เบอร์ โทร 7